John Deere RMA

ทำความรู้จัก “ไข่ผำ” อาหารสุขภาพมาแรงยุคนี้

เทรนด์อาหารแพลนต์เบสกำลังมาแรง โดยเน้นรับประทานอาหารจากพืชเป็นหลัก ที่ ทั้งดีต่อสุขภาพ และยังไม่ทำลายโลก อย่าง  “ไข่ผำ” หรือ “ไข่น้ำ” (Wolffia) พืชน้ำโปรตีนสูงที่กำลังได้รับความนิยมสุด ๆ แม้หน้าตาจะเหมือนจอกแหน แต่จริง ๆ แล้วดีต่อสุขภาพ สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบ ได้หลากหลายเมนู วันนี้เราจะขอพาทุกคน ไปทำความรู้จัก กับไข่ผำกันให้ดีขึ้นกว่าเดิม รับรองว่าจะต้องได้ เมนูสุขภาพใหม่ ๆ เพิ่มแน่นอน

“ไข่ผำ” คืออะไร?

ไข่ผำ เป็นพืชลอยน้ำ ตระกูลแหน มักจะลอยอยู่บนผิวน้ำ ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่เป็นน้ำนิ่ง ได้แก่ ห้วย หนอง คลอง บึง ฯลฯ เจริญเติบโตได้ดี ในน้ำสะอาด โดยเฉพาะที่ที่อากาศร้อน และมีแสงแดด ช่วยในการสังเคราะห์แสง มีใบไม้ และมูลสัตว์สะสมเป็นแหล่งอาหาร พบมากในภาคเหนือ และอีสานของไทย

ไข่ผำ มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลม สีเขียว มีขนาดเล็ก คล้ายกับไข่กุ้งในซูชิ ทำให้ถูกเรียกอีกชื่อว่า “กรีนคาเวียร์” ไม่มีรากและใบ เป็นพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลก ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ มี 2 สายพันธุ์หลักคือ Wolffia arrhiza และ Wolffia globosa โดยชาวอีสานรู้จักไข่ผำ และนำมาปรุงเป็นอาหารพื้นบ้าน มาเป็นเวลาช้านานแล้ว ก่อนที่ในปัจจุบันจะได้รับความสนใจ และกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

คุณประโยชน์ของ “ไข่ผำ”

ไข่ผำเป็นพืชที่อุดมไปด้วยโปรตีน และคุณค่าทางโภชนาการสูง ถูกยกให้เป็นซูเปอร์ฟู้ด โดยมีกรดอะมิโนจำเป็น ที่พบมากสุด 3 อันดับแรก คือ ไลซีน ฟีนิลอะลานีน ลิวซีน ที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย และระบบประสาท

ไข่ผำยังมีปริมาณโปรตีน ในระดับเดียวกับเมล็ดธัญพืช มีเส้นใยสูง มีปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็น ไม่ต่างกับไข่ไก่ สาหร่ายเกลียวทอง และสาหร่ายคลอเรลลา

โดยคลอโรฟิลล์ในไข่ผำ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าในสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งใช้รักษาอาการท้องผูก และสภาวะซีด ในคนที่เป็นโรคโลหิตจางได้

จากการศึกษาพบว่า ไข่ผำแห้งมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว สูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัว ประมาณ 2 เท่า และมีกรดไขมันจำเป็น ที่ร่างกายต้องการอีก 2 ชนิด ได้แก่ กรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 ในปริมาณที่สูง ทั้งนี้คุณค่าทางสารอาหาร จะแปรผันไปตามสภาพแวดล้อมที่เพาะเลี้ยงอีกด้วย

ทำไมถึงดีต่อสิ่งแวดล้อม?

ไข่ผำ ถูกยกให้เป็นอาหารแห่งอนาคต เพราะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำ ใช้ระยะเวลา ในการเพาะเลี้ยงสั้น ๆ เพียง 2 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ทั้งยังมีศัตรูพืชน้อย ไม่ต้องใช้การดูแลมาก รวมถึงยังสามารถ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย ทำให้มีแนวโน้มเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่สำคัญได้ในอนาคต

“ไข่ผำ” กินยังไง?

ก่อนจะนำไข่ผำ มาปรุงอาหาร ควรล้างทำความสะอาด ด้วยน้ำเปล่า เพื่อขจัดเศษดินฝุ่น และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ออกให้หมดก่อน แล้วรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นบีบน้ำออกให้หมด ก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้แล้ว ที่สำคัญจะต้องปรุงสุก เพราะไข่ผำ มีสารพิษต้านฤทธิ์สารอาหาร จึงไม่สามารถรับประทานแบบสดได้

แนะนำ 3 เมนูอร่อยจาก “ไข่ผำ”

ไข่ผำมีรสชาติเหมือนผักทั่วไป ไม่ขม ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว มีความกรุบคล้ายกับไข่กุ้ง  นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลาย ได้แก่ แกงอ่อม แกงคั่ว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว

1. ไข่เจียวใส่ไข่ผำ
เมนูแสนอร่อยทำง่าย ๆ มือใหม่เข้าครัว ก็สามารถทำตามได้ เพียงแค่ผสมไข่ผำลงในไข่เจียว ทอดให้หอม กรอบนอกนุ่มใน รับประทาน กับข้าวสวยร้อน ๆ ได้ทั้งความอร่อย และคุณประโยชน์เต็ม ๆ คำ

2. ไข่ผำสมูทตี้
เมนูเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่น ใช้ส่วนผสมน้อย ไม่ยุ่งยาก แค่นำไข่ผำ กล้วย 1 ลูก อะโวคาโดครึ่งลูก นม 1 ถ้วย และน้ำตาลทรายแดง ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากัน จะดื่มเลย หรือนำไปแช่เย็น เพิ่มความอร่อยก็ได้

3. วาฟเฟิลไข่ผำ
ของหวานถูกปากทุกเพศทุกวัย วิธีทำก็แสนง่าย สามารถใช้ แป้งวาฟเฟิลสำเร็จรูป ไข่ไก่ นมสด และเนย ผสมวัตถุดิบทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วใส่ไข่ผำ นำเข้าเครื่องทำวาฟเฟิล รอไม่กี่นาที ก็ได้วาฟเฟิลหอมหวาน รสชาติอร่อยแล้ว

สามารถอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ : ข่าวสาร & โปรโมชั่น