สวนทุเรียน ปลูกทุเรียนอย่างไรให้ได้ผลผลิตระยะยาว
ทุเรียน ผลไม้ที่มีรูปร่างแปลก มีหนามแหลมคม กลิ่นฉุนรุนแรง แต่ในทางกลับกันรสชาติก็อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นที่เลื่องว่าเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติเข้าไปแล้วจะติดใจจนไม่สามารถออกจากวงการทุเรียนได้เลย ลักษณะของทุเรียนในเชิงพฤษศาสตร์มีลำต้นที่ค่อยข้างสูงใหญ่ ให้ผลผลิตที่ดีในช่วงเมษายน – สิงหาคม ตามฤดูกาลทุเรียน ในไทยฤดูกาลของทุเรียนในภาคตะวันออก คือ เดือนเมษายนถึงมิถุนายน และภาคใต้คือเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม แต่เนื่องด้วยปัุจจุบันเกษตรกรสวนทุเรียนต้องประสบพบเจอกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างไม่คงที่ ทำให้การควบคุมการผลิตเป็นไปได้อย่างลำบาก แน่นอนว่าทุเรียนสามารถสร้างเม็ดเงินได้อย่างมหาศาล หากได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ปลูกทุเรียนอย่างไรให้รอด เราไปดูกันเลย!
ปลูกทุเรียนอย่างไร : ปัจจัยพื้นฐาน
ทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการน้ำในการเจริญเติบโตมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นเกษตรกรต้องเตรียมการจัดแจงพื้นที่ให้เรียบร้อยเสียก่อน เป็นที่รู้กันอยู่ในวงสังคมชาวเกษตรมากก่อนจะปลูกอะไรก็ตาม จะต้องทำการปรับปรุงดิน หรือเติมสารอาหารในดินให้มีอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
- ฤดูกาล ต้นทุเรียนสามารถเติบโตได้ดีในเดือนมีนาคมถึงเมษายน ออกอากาศหรือมีความชื้นแต่ก็ยังเคยความร้อนอยู่
- การจัดระบบน้ำ ทุเรียนต้องการสวนที่มีร่องน้ำ แต่ในทางกลับกันเกษตรกรก็ต้องป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังอีกด้วย
- ระยะการปลูก จากสถิติและ 1 ไร่จะสามารถปลูกทุเรียนลำต้นโตเต็มวัยได้ประมาณไร่ละ 20 ต้น โดยมีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 9 เมตร การปลูกจะต้องคำนึงถึงวิธีการเก็บเกี่ยวอีกด้วย
- การลงดิน มีทั้งหมด 2 ประเภท คือ แบบขุดหลุมและไม่ขุดหลุม ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเกษตรกร และความชื้นของแต่ละพื้นที่
- หมั่นดูแลความชื้นให้กับต้นทุเรียนอยู่เป็นประจำ นอกจากจานรดน้ำเติมความชื้นแล้ว เกษตรกรยังสามารถเติมความชื้นได้โดยใช้วัสดุคลุมดินต่างๆ เช่น ฟาง หรือต้นหญ้าแห้ง
- หว่านปุ๋ยคอกผสมกับปุ๋ยเคมีเป็นระยะ วิธีการหว่านปุ๋ยจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ตามข้างต้น รวมไปถึงอายุของผลและดอกทุเรียน
ปลูกทุเรียนอย่างไร : สายพันธุ์ไหนตอบโจทย์ตลาดผลไม้ที่สุด
ทุเรียนจะมีดอกก็เมื่อสภาพอากาศดินน้ำสมบูรณ์จนถึงขั้นสุดแล้ว ซึ่งสายพันธุ์ที่เราเคยเห็นหรือได้ลองชิมมาแล้วมีอยู่ประมาณถึง 9 สายพันธุ์ แล้วแต่พื้นที่และความชื่นชอบ แต่ละพันธุ์ก็จะมีความแตกต่างกันไปมีรสชาติและราคาที่แตกต่างตามกันไปด้วย
- ทุเรียนก้านยาว เป็นเที่ยงเรื่องลือกันมาอยู่ตึกว่าทุเรียนพันธุ์นี้ค่อนข้างมีราคาสูงจนหากินได้ยาก เพราะมีส่วนน้อยกว่าคันอื่นๆจึงทำให้อุปสงค์และอุปทานไม่บาลานซ์กัน จุดเด่นอยู่ที่รสชาติหวานมันเน้นนุ่มสีเหลืองทอง เสื้อผ้าขอทุเรียนคงจะชอบพันนึงที่สุด
- ทุเรียนป่าละอู มีแหล่งที่มาป่าละอู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราคาไม่แพงมากรสชาติเน้นไปทางหวานและมีกลิ่นอ่อนๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจังหวัดชลบุรีและใกล้เคียง
- ทุเรียนหมอนทอง จุดเด่นอยู่ที่รสชาติหวานนวล ทานง่าย กลิ่นไม่แรงเท่าไหร่ นิยมทานในระดับความสุกกลางๆ หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง
- ทุเรียนหลงลับแล ทุเรียนหนึ่งเดียวจากเมืองเหนือ กลิ่นจัดอยูในระดับหอมสบายจมูก เนื้อละเอียดทานง่าย ด้วยรสชาติที่สบายๆ ระวังน้ำหนักจะขึ้นไม่รู้ตัวนะ
- ทุเรียนกระดุมทอง หรือทุเรียนกระดุม ขอบอกเลยทุเรียนกระดุมีราคาถูกมาก จึงเป็นที่นิยมในหมู่แม่ค้า LIVE ขายสินค้าสด ด้วยราคาที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก บวกกับหาซื้อง่ามาก จึงกลายเป็นที่สนใจในหมู่แม่ค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก ส่วนในเรื่องของรสชาตินั้น มีรสชาติออกไปทางหวานมัน ความฉ่ำกำลังดี
- ทุเรียนนกหยิบ เป็นอีกหนึ่งสายพันธ์ทที่ได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน ด้วยรสชาติที่ที่หวานมันกำลังดี บวกกับเนื้อสัมผัสที่ร่วนแห้งกว่าพันธุ์อื่นๆ จึงทำให้เกิดเป็นรสสัมผัสใหม่ๆ นิยมทานในระดับสุกกำลังดี
ปลูกทุเรียนอย่างไร : ปลูกอย่างไรให้กำไรงาม
ทุเรียน ผลไม้สีเหลืองนวล มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นที่นิยนปลูกในภาคตะวันออกและภาคใต้ เพราะเป็นพืชที่ชอบอากาศรอนชื้นของแหล่งที่ปลูก เติบโตได้ดีในดินลักษณะที่ผสมทรายเล็กน้อย เช่น ดินร่วนปนทราย ดินเหนียวปนทราย แต่อัตรส่วนของทรายต้องไม่เยอะจนดูดความชื้นจนเกินไป ต้องการความอุดมสมบูรณ์ของดินและแหล่งน้ำจืดอยู่ตลอดเวลา หากปลูกทุเรียนในแหล่งที่แห้งแล้งอาจจะส่งผลให้ทุเรียนปลิตผลออกมาได้ช้ากว่าปกติ หรือผลผลิตแคระแกรน รสชาติไม่ดี ขายแล้วราคาตก ทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการน้ำในการเจริญเติบโตมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นเกษตรกรต้องเตรียมการจัดแจงพื้นที่ให้เรียบร้อยเสียก่อน เป็นที่รู้กันอยู่ในวงสังคมชาวเกษตรมากก่อนจะปลูกอะไรจะต้องทำการปรับปรุงดิน หรือเติมสารอาหารในดินให้มีอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
- ระยะการเตรียมดิน ก่อนลงปลูกกล้าลงดิน เกษตรกรต้องทำการจัดเตรียมแปลงที่ดินเสียก่อน โดยสิ่งที่จะต้องคำนึงถึง คือ ร่องน้ำสำหรับต้นทุเรียน ก่อนอื่นเกษตรกรต้องเริ่มจากการปรับหน้าดินให้เรียบเนียน และบำรุงดินเพื่อนเตรียมความพร้อมสำหรับต้นกล้า โดยส่วนมากการเตรียมดินแบบแนวลูกฟูกได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะใช้ระเวลเวลาน้อยกว่ารูปแบบอื่น โดยมีระยะห่างต่อต้นประมาณ 9 – 10 เมตร ความจุในการปลูกทุเรียนต่อพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จะปลูกได้โดยประมาณ 20 ต้น หรือจะลดระยะห่างลงมาเพื่อเพิ่มความจุต่อพื้นที่ 1 ไร่ โดยสามารถกะระยะห่างต่อต้นได้ตั้งแต่ 8 – 10 เมตร ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ แต่อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรคำนึงถึงขนาดของลำต้นเมื่อโตเต็มวัยแล้ว ซึ่งทางที่ดีไม่ควรอัดแน่นจนเกิน 25 ต้นต่อไร่
- ระยะห่างระหว่างลำต้นสำคัญมาก ควนเผื่อพื้นที่ในการเจริญเติบโตและเก็บเกี่ยวผลผลิต มีช่องว่าให้รถสามารถเข้าไปขนส่งทุเรียนได้
- แหล่งน้ำสำคัญมาก เพราะต้นทุเรียนค่อนข้างชอบความชื้นมากเป็นพิเศษ หากสิ่งแวดล้อมรอบข้างสมบูรณ์ ก็จะสามารถให้ผลผลิตที่มากและมีคุณภาพเป็นพิเศษ
- พืชคลุมดินเพื่อเพิ่มความชื้นให้กับลำด้น ไม่จำเป็นต้องปลูกพืชคลุมดินโดยเฉพาะก็ได้ เกษตรกรสามารถเลือกปลูกตามความชอบได้เลย
- ขั้นตอนการปลูกทุเรียน วิธีปลูกที่นิยมมีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถเลือกปลูกได้ตามความสะดวกของแต่ละพื้นที่และระยะเวลาที่มี ส่วนต้นทุเรียนนิยมปลูกอนุบาลต้นกล้าก่อนลงดิน ต้องได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลำต้นมีความแข็งแรง สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่เตรียมไว้
- ปลูกแบบขุดหลุม ได้รับควานิยมในพื้นที่ที่ค่อนข้างแล้ง มีความชื้นน้อย หรือสภาวะอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง เพราะหลุมดังกล่าวจะสามารถช่วยเก็บความชื้นได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องน้ำท่วมขังได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ต้นทุเรียนรากเน่า และตายได้ในที่สุด
- ปลูกไม่ขุดหลุม เหมาะกับพื้นที่ฝนตกชุก สามารถหลีกหนีจากปัญหาน้ำท่วมขังได้ดีกว่าการปลูกแบบขุดหลุม เปอร์เซนต์การเจริญเติบโตเร็วกว่าการขุดหลุม แต่จะต้องจัดแจงระบบน้ำและเตรียมหน้าดินให้ราบเตียนดีเสียก่อน
เกษตรกรควรเริ่มเตรียมการปลูกต้นกล้าประมาณเดือนมีนาคม – เมษายน และลงดินในช่วงหน้าฝนพอดี และแน่นอนว่าทุเรียนตยังต้องการแสงแดดที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตอีกด้วย
ปลูกทุเรียนอย่างไร : ขั้นตอนการดูแลง่ายๆ
ความรู้จากวิชาวิทยาศาสตร์สมัยประถม ทำให้เรารู้ว่าก่อนที่จะมาเป็นผลทุเรียนกลิ่นหอมหวนนั้น ต้องเคยเป็นดอกทุเรียนมาเสียก่อน ซึ่งขณะที่ดอกทุเรียนกำลังผลิบานนั้น ต้องได้รับการตกแต่งกิ่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทรงสวยแและเก็บเกี่ยวได้ง่าย โดยจะสามารถเริ่มตัดแต่งกิ่งได้เมื่อทุเรียนมีอายุประมาณ 1 ปีเป็นต้นไป แต่ก็ไม่ควรเกิน 1.5 ปี เนื่องจากเนื้อไม้จะแข็งและทำให้ตัดแต่งยาก หลังจากที่ได้ปลูกต้นกล้าไปยังดินเรียบร้อยแล้ว เกษตรกรสามารถเริ่มใส่ปุ๋ยได้ประมาณ 4 ครั้ง รวมถึงจัดแจงวัชพืช พืชคลุมดินต่างๆ ให้เป็นที่เรียบร้อย ควรใส่ปุ๋ยและทำโคนเดือนเว้นเดือน โดยจะสลับใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีก็ได้
- น้ำ ควรมีแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ แต่ก็ต้องระวังสภาวะน้ำท่วมขัง ทำให้รากเน่าได้ในที่สุด เมื่อทุเรียนออกดอกแล้วให้ควบคุมปริมาณน้ำที่จะให้ โดยค่อยๆ เพิ่มปริมาณน้ำขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ดอกทุเรียนสามารถเติบโตได้ดี จนเมื่อดอกทุเรียนอยู่ในระยะก่อนดอกบาน 1 สัปดาห์ ก็ให้ลดปริมาณน้ำลงโดยให้เพียง 1 ใน 3 ของปกติ
- ปุ๋ย ควรใส่แต่พอดี โดยเกษตรกรสามารถวิเคราะห์ปริมาณได้จากความสมบูรณ์ของแต่ละพื้นที่ และสามารถแบ่งการใส่ปุ๋ยได้ตามระยะเวลาต่างๆ ดังนี้
- ระยะหลังเก็บเกี่ยว
- ปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน 20 ถึง 50 กิโลกรัมต่อต้น
- ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 กิโลกรัมต่อต้นเท่ากับ 1 ใน ของเส้นผ่า ศูนย์กลางทรงพุ่ม
- ระยะบำรุงผลลิต (เมื่อผลมีอายุ 7 สัปดาห์)
- ปุ๋ยเคมีสูตร 12-12-17-2 หรือ 13-13-21 อัตราเป็นกิโลกรัมต่อต้น เท่ากับ 1 ใน 3 ของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม
- ระยะบำรุงผลลิตเพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อ
- ปุ๋ยเคมีสูตร 0-0-50 อัตรา 1 ถึง 2 กิโลกรัมต่อต้น
- ระยะหลังเก็บเกี่ยว
- ตัดแต่งดอก เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งบริเวณช่วงปลายทิ้ง ให้คงเหลือช่อดอกประมาณ 3 ถึง 6 ช่อดอกต่อความยาวกิ่ง 1 เมตร และควรมีระยะห่างแต่ละช่อดอกประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันการแย่งสารอาหาร
- ตัดแต่งผล เริ่มทำการกำจัดตัดแต่งผลที่มีขนาดเล็ก รูปทรงบิดเบี้ยว และไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการออก เมื่อผลทุเรียนมีอายุประมาณ 4 – 5 สัปดาห์หลังดอกบาน
ทุเรียน ผลไม้สีเหลืองนวล มีกลิ่นเฉพาะตัว เป็นที่นิยนปลูกในภาคตะวันออกและภาคใต้ เพราะเป็นพืชที่ชอบอากาศรอนชื้นของแหล่งที่ปลูก เติบโตได้ดีในดินลักษณะที่ผสมทรายเล็กน้อย เช่น ดินร่วนปนทราย ดินเหนียวปนทราย แต่อัตรส่วนของทรายต้องไม่เยอะจนดูดความชื้นจนเกินไป ต้องการความอุดมสมบูรณ์ของดินและแหล่งน้ำจืดอยู่ตลอดเวลา หากปลูกทุเรียนในแหล่งที่แห้งแล้งอาจจะส่งผลให้ทุเรียนปลิตผลออกมาได้ช้ากว่าปกติ หรือผลผลิตแคระแกรน รสชาติไม่ดี ขายแล้วราคาตก เราจะเห็นได้เลยว่า การปลูกทุเรียน ปลูกทุเรียนอย่างไร ไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ เพียงแค่มีปัจจัยหลักเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ก็สามารถผลิตลูกหนาม รสชาติอร่อย ได้อย่างมีคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุนและเวลาที่เสียไป
อ้างอิง : https://www.arda.or.th/kasetinfo/south/